บล็อกของคนรักของทำมือ

14.5.54

ความหวังครั้งใหม่

    วันนี้ฉันมีโอกาสไปนั่งร้านกาแฟเล็กๆหน้าปากซอย  เป็นร้านเล็กๆที่มีโต๊ะ 3-4 ชุดเท่านั้น  แต่มันทำให้ฉันเกิดความรู้สึกคิดถึง ร้านเดิมที่ครั้งหนึ่งฉันเคยสร้างมันขึ้นมา  แม้มันจะไม่ใช้ร้านกาแฟเช่นร้านนี้ก็ตาม  ฉันมองไปรอบๆ  "อืม....ร้านเล็กๆน่ารักดีนะ  อยากมีบ้างจัง" ฉันคิดอย่างนั้นในใจ



    ฉันสั่งขาเขียวนมเย็นมาดื่ม  สายตายังคอยมองไปรอบๆร้านที่น่ารักแห่งนี้  และแล้วฉันก็มีความหวังเล็กๆในใจ  "สักวัน...หากฉันสร้างมันขึ้นมาได้...ฉันจะรักษามันไว้...และจะดูแลมันอย่างดี...ฉันสัญญา..."


[รูปในอินเทอร์เน็ต]

หากฉันสามารถทำได้อย่างนั้น...ฉันคงไม่ต้องไปไหนไกล
ฉันอยากอยู่ที่นี่ตลอดไป  ไม่อยากจากไปไหน

บอกตัวเองเอาไว้...ต้องทำให้ได้...สักวันหนึ่ง

25.4.54

อีกวันที่นอนไม่หลับ

    นอนไม่หลับอีกแล้ว..............ทั้งที่ไม่ได้คิดอะไรตั้งแต่แรก  ฉันเพียงแค่นั่งดูซีรี่ย์เรื่องเดิมที่ฉันชอบเท่านั้น(The Woman Who Still Wants To Marry)...........อาจเป็นเพราะพระเอกหล่อโดนใจ  หรือไม่ก็เพราะเนื้อหาของเรื่องมันตรงใจฉัน.........มันให้แง่คิดฉันหลายอย่าง......ประโยคนึงที่ฉันชอบมากคือ

     "ถ้าฉันไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง  ใครจะช่วยเหลือและอยู่ข้างฉัน  ฉันต้องกัดฟันและรักตัวเอง  วันพรุ่งนี้ดวงอาทิตย์ก็จะขึ้นมาใหม่  ฉันอยากจะเชื่อว่าฉันดีขึ้นกว่าที่ฉันคิด  และฉันก็จะเชื่ออย่างนั้นจริงๆ"

    ทุกทุกวันฉันมีความสุขดี  อาจมีบางคราวที่รู้สึกท้อแท้ใจ  แต่นั่นมันก็แค่ผ่านมาแล้วก็จะจากไป  บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนมองไม่เห็นเส้นทางเดินข้างหน้า  "ทำไมมันช่างมืดมนนักนะ"  ฉันคิดอย่างนั้น  แต่แล้วก็มักจะมีเสียงเล็กๆในความคิดของฉันบอกว่า  "ถ้ารู้สึกว่ามองไม่เห็น  ก็นั่งพักหลับตาให้สบายสิ  เมื่อฉันลืมตาอีกครั้งและดวงตะวันทอแสงในวันใหม่  ฉันจะสามารถมองเห็นเส้นทางเดินของฉันได้"

     ฉันจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตอันมีค่าของฉัน  เพราะสิ่งเหล่านั้น  ไม่มีสิ่งไหนเลยที่ไม่ได้มอบอะไรให้ฉัน  แม้แต่สิ่งที่เป็นเรื่องน่าเสียใจ  ทำให้ฉันร้องไห้  มันยังมอบคำว่า " บทเรียน "  ให้กับฉันเลย

19.4.54

ความฝันของคนโง่


ฉัน... ฉันมีความฝัน
ถึงมันจะดูโง่ๆ และถูกทำลายไปแล้ว
แต่ฉันก็ยังเก็บมันไว้ในส่วนลึกของใจ ราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง

บางครั้ง คนบางคนก็หัวเราะเยาะลับหลังฉัน
...ฉันควรจะต้องทนกับมัน
และฉันก็ทนมันได้

คุณชอบพูดด้วยความกังวลใจว่
“ความฝันที่ว่างเปล่าน่ะคือยาพิษ”
โลกใบนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว เหมือนกับตอนจบของนิยาย
มันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว นี่คือเรื่องจริง

ฉัน...ฉันมีความฝัน
ฉันเชื่อในความฝัน
มองมาที่ฉันสักหน่อยสิ
เบื้องหน้าของกำแพงอันมืดเย็นที่ชื่อว่า “โชคชะตา”
จะมีฉัน ที่สามารถเผชิญกับมันได้ด้วยความมั่นใจอันเต็มเปี่ยม

สักวันฉันจะขึ้นไปอยู่เหนือกำแพงนั้น
ฉันสามารถบินขึ้นไปสู่ที่สูงเหนือฟ้าได้
แม้แต่โลกที่แสนโหดร้ายก็ฉุดฉันไม่ได้
ที่ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของฉัน
วันที่ฉันมีรอยยิ้มสดใส
....................................ฉันหวังให้มีวันนั้น

23.3.54

เพื่อนเก่า...กลับมาเยือน

    วันนี้...ฉันใช้ชีวิตให้ดำเนินไปเหมือนเช่นเคย
มันเป็นวันที่ไม่มีอะไรสำคัญนัก
แต่มีบางอย่างที่...แปลกไป
...มันคือความรู้สึกว่างเปล่านั่นเองที่แวะเวียนมา

 เพื่อนเก่าของฉันที่หายไปนาน
เธอคงคิดถึงฉันสินะ เลยกลับมาหา
 มันก็ดีในบางครั้งที่เธอแวะเวียนมา
อย่างน้อยเธอก็ทำให้ฉันรู้ว่า...ความรู้สึกว่างเปล่านั้น

....................มันมีอยู่จริง.............................

22.3.54

หัวใจ...ที่น่าสงสาร

    ตอนนี้...หัวใจของฉัน  มันกำลังร้องไห้
ใจของฉัน...มันช่างน่าสงสาร  เพราะความอ่อนแอ
..........มันจึงต้องบอบช้ำ  เหมือนมีมือใจร้ายมาบีบรัด
ถึงอย่างนั้น...ฉันกลับทำอะไรเพื่อมันไม่ได้เลย

    ก่อนนี้...หัวใจของฉันมันเคยแข็งแกร่ง
มันไม่เคยอ่อนไหว  หรืออ่อนแอแม้เพียงครั้ง
แต่เหตุใดวันนี้...มันกลับ -____- ร้องไห้เพราะความเจ็บปวด
นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด??????

   บางครั้ง...คล้ายกับว่าฉันจะล่วงรู้เหตุผลของมัน
แต่บางครั้ง...ฉันกลับมองไม่เห็นมัน  ต้นเหตุของความเจ็บปวดนั้น
สิ่งใดหรือ???  คือสิ่งที่ฉันมองข้าม
สิ่งใดหรือ???  ที่หลบซ้อนตัวอยู่ในความมืดมิด

    ในตอนนี้...ฉันทำได้เพียง...นั่งมองดูใจของฉัน
หัวใจที่บอบช้ำและน่าสงสารดวงนั้น
ปล่อยให้มันร้องไห้อย่างนั้น
โดยหวังเพียงว่า  สักวัน...น้ำตาเหล่านั้น  มันจะเหือดแห้ง...และหายไป



..............................และนั่น  เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันคิด  และทำได้ในตอนนี้